การทำเทอเมจเป็นวิธีการที่ดีที่จะช่วยฟื้นฟูผิวหน้าจากการเผชิญมลภาวะต่าง ๆ ทั้งฝุ่น PM 2.5 ฝุ่นทั่ว ๆ ไป ควันรถ แสงแดด ล้วนแต่เป็นมลภาวะที่ทำร้ายผิวหน้าของผู้หญิงทั้งสิ้น นอกจากนี้ยังมีความเครียดสะสมจากการดำเนินชีวิตและจากการทำงานซึ่งผลร้ายต่อผิวหน้าทำให้ผิวหน้าไม่สดใสมีแต่ความหมองคล้ำ ริ้วรอยเพิ่มขึ้นจากการแสดงอารมณ์ในชีวิตประจำวัน ที่ปรากฏขึ้นบริเวณใบหน้าของผู้หญิงทุกคน แม้จะใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับดูแลผิวหน้าก็ยังไม่เพียงพอต่อการจัดการปัญหาเหล่านี้
การทำเทอเมจใบหน้าจึงเป็นทางออกที่เหมาะสมสำหรับการดูแลรักษาใบหน้าที่มีปัญหาริ้วรอย ความหมองคล้ำต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นวิธีเร่งด่วนที่จะช่วยเหลือผิวหน้าของผู้หญิงทุกคนเพิ่มเติมจากการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าได้ดีเพิ่มขึ้น การทำเทอเมจเพื่อจะให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีควรทำกี่ครั้งต่อสัปดาห์จึงจะเห็นผลได้อย่างชัดเจน ก่อนที่จะเริ่มทำเทอเมจจะต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมทั้งวิธีการทำของสถาบันความงามต่าง ๆ ระยะเวลาในการทำ และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นควรจะมีในลักษณะแบบใด บทความนี้จะช่วยให้ข้อมูลเพื่อเพิ่มการตัดสินใจ
- การทำเทอเมจคืออะไร
การทำเทอเมจ คือนวัตกรรมความงามรูปแบบหนึ่ง ที่ช่วยขจัดปัญหาเกี่ยวกับผิวหน้า ที่มีปัญหาในเรื่องริ้วรอยปรากฏบนใบหน้าก่อนวันอันควร ความหย่อนคล้อยของผิวหน้า รูขุมขนกว้างทำให้เกิดความมันบนใบหน้า ผิวหน้าหมองคล้ำไม่สว่างสดใส ปัญหาเหล่านี้จะถูกขจัดด้วยการทำเทอเมจ ที่นำคลื่นวิทยุขั้วเดียวเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนใช้สำหรับกระชับผิวหน้าให้ดูอ่อนกว่าวัย นอกจากผิวหน้าและเทอเมจยังช่วยกระชับสัดส่วนต่าง ๆ ของร่างกายทั้งหน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา สลายเซลลูไรท์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นตามร่างกาย
- วิธีการเลือกสถาบันความงามที่จะทำเทอเมจ
การจะทำเทอเมจผิวหน้าควรจะพิจารณาจากสิ่งใดบ้าง เพื่อที่จะได้สถาบันความงามที่ดีมีมาตรฐานและไม่เกิดอันตรายหลังการเข้ารับบริการ
- ควรเลือกสถาบันความงามที่มีมาตรฐาน มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่สามารถให้คำแนะนำสำหรับการทำเทอเมจผิวหน้าได้
- ควรเลือกสถาบันความงามที่มีความสะอาดทั้งสถานที่และเครื่องมือ ต้องได้รับการรับรองมาตรฐาน
- สามารถสอบถามเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทำเทอเมจผิวหน้าได้ และทางสถาบันความงามสามารถอธิบายได้ไม่ปิดบังข้อมูล
- ควรเลือกสถาบันความงามทีให้ความสำคัญกับผู้เข้ารับบริการ และมีการบริการหลังการเข้ารับการทำเทอเมจ
- ควรศึกษาข้อมูลการทำเทอเมจของแต่ละสถาบันก่อนเข้ารับการปรึกษา
- ปัญหาผิวแบบใดที่จะเข้ารีบการทำเทอเมจและมีวิธีการทำอย่างไร
ผู้ที่จะเข้ารับบริการเทอเมจจะต้องมีลักษณะปัญหาผิว คือ ผิวหน้ามีรูขุมขนที่กว้างทำให้เกิดความมันบนใบหน้า ผิวหน้ามีความหย่อนคล้อยขาดความกระชับ มีริ้วรอยต่าง ๆ ปรากฏบนใบหน้าทั้งบริเวณใต้ตา หน้าผาก ผิวหน้ามีความหมองคล้ำจากการเผชิญมลภาวะต่าง ๆ มาอย่างยาวนานทั้งแสงแดด ฝุ่น ควันรถทำให้เกิดการสะสมสิ่งสกปรกบริเวณใบหน้า นอกจากปัญหาผิวหน้าแล้ว เทอเมจก็สามารถช่วยยกกระชับบริเวณอื่นของร่างกายได้ทั้งหน้าท้อง ต้นแขน ต้นขาพร้อมทั้งกำจัดเซลล์ไรท์ที่เกิดการสะสมมาเป็นระยะเวลานาน ปัญหาที่กล่าวมาจะได้รับการแก้ไขด้วยเทอเมจ
การทำเทอเมจจะมีวิธีการ คือ การใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐานและใช้พลังงานความร้อนจากคลื่นวิทยุขั้วเดียวมาใช้ในการกระชับบริเวณที่ผู้เข้ารับบริการมีความต้องการจะแก้ไขปัญหา ก่อนจะเริ่มใช้พลังงานความร้อนจะมีการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารอาหารของผิวมาทาบริเวณใบหน้า และจะใช้พลังงานความร้อนลากผ่านบริเวณใบหน้าเพื่อเป็นการกระตุ้นเซลล์ผิว ตั้งแต่ชั้นผิวแท้ไปจนถึงกล้ามเนื้อทุกส่วน ให้เกิดการซ่อมแซมผิวด้วยสารอาหารที่แทรกซึมเข้าไปยังบริเวณผิวหน้า อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นให้เซลล์ผิวเกิดการสร้างคอลลาเจนที่ดีต่อผิวมาช่วยขจัดความหมองคล้ำของผิว สร้างความกระจ่างใสให้แก่ผิวหน้า นับว่าเป็นวิธีการที่จะช่วยให้ผู้รับบริการมีความมั่นใจในผิวพรรณของตนเองเพิ่มขึ้น นอกจากปัญหาความหมองคล้ำแล้ว เทอเมจยังสามารถช่วยให้ผิวหน้ากระชับและดูอ่อนเยาว์พร้อมทั้งการบำรุงผิวอย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
- ข้อดีของการทำเทอเมจ
4.1 การทำเทอเมจมีความปลอดภัยสูง เนื่องจากมีผู้เชี่ยวชาญที่ให้ความสนใจในเรื่องการทำเทอเมจและได้ค้นคว้าศึกษาเพิ่มเติมและพัฒนาให้มีผลข้างเคียงน้อยที่สุด
4.2 การทำเทอเมจสามารถเห็นผลลัพธ์ได้จากการทำเพียง 1 ครั้งแตกต่างจากการทำเลเซอร์ผิวที่จะต้องใช้ระยะเวลาในการทำมากกว่า 3 ครั้งขึ้นไปจึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนได้
4.3 การทำเทอเมจมีความสะดวกเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิว แต่มีระยะเวลาในการพักรักษาไม่มาก หลังจากการเข้ารับบริการไม่ต้องพักรักษาตัว สามารถไปทำงานได้ตามปกติ
4.4 สามารถเข้ารับบริการได้ทุกสภาพผิว ทั้งผิวแห้ง ผิวมัน ผิวธรรมดา และผิวผสม แค่เพียงมีปัญหาที่เกี่ยวข้องกับความหย่อนคล้อย มีริ้วรอย ผิวหมองคล้ำ รู้ขุมขนกว้าง สามารถเข้ารับบริการได้ทุกสภาพผิว
4.5 สามารถทำได้ง่าย และประหยัดเวลาในการทำ ไม่ต้องฉีดยาชา
- ข้อเสียของการทำเทอเมจ
5.1 การทำเทอเมจมีราคาค่อนข้างสูง จึงไม่เหมาะกับผู้รับบริการบางกลุ่ม เช่นนักเรียน นักศึกษา เป็นต้น
5.2 ผู้ที่มีโรคประจำตัวเป็นโรคหัวใจ หรือโรคที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจ แพทย์จะไม่อนุญาติให้ทำเนื่องจากอาจจะเกิดอันตรายถึงชีวิตได้
5.3 อาจจะเกิดผลข้างเคียงหลังทำ เช่นมีรอยแดง รอยนูนเกิดขึ้นในบริเวณที่ทำ อาการเหล่านี้สามารรหายได้เองตามธรรมชาติ แต่ถ้ายังไม่หายควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที
- เพื่อผลลัพธ์ที่ดีควรทำเทอเมจกี่ครั้ง
การทำเทอเมจเพื่อแก้ปัญหาผิวหน้าที่มีความหมองคล้ำไม่กระจ่างใส ความหย่อนคล้อยไม่กระชับขิงผิวหน้า รูขุมขนที่กว้าง ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป ด้วยการทำเทอเมจเพียง 1 ครั้งสามารถช่วยให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้ารับการบริการ และจะเริ่มเห็นผลอย่างชัดเจนเมื่อได้ระยะเวลา 2-3 เดือน เนื่องด้วยหลังจากการทำแล้วต้องรอให้คอลลาเจนได้ซ่อมแซมชั้นผิวที่มีปัญหา และเสื่อมถอยได้กลับมามีสุขภาพผิวที่ดี พร้อมทั้งสร้างคอลลาเจนต่าง ๆ มาเสริมความแข็งให้แก่ผิวหน้าของผู้เข้ารับบริการ และผลลัพธ์ความอ่อนเยาว์จะคงอยู่ตลอดระยะเวลา 1-2 ปี ค่าใช้จ่ายของการทำเทอเมจจะมีราคาค่อนข้างสูงประมาณ 30,000-100,000 บาท แต่เมื่อเทียบกับสิ่งที่ผิวได้รับถือว่ามีความคุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่าย
การทำเทอเมจเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ดีให้แก่ผิวหน้าสามารถทำเพียงครั้งเดียวก็จะเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ผิวหน้าได้ แม้ผู้เข้ารับบริการจะมีปัญหาเกี่ยวกับผิวหน้าอย่างหนัก เช่นผิวหน้าประสบปัญหาทั้งความหมองคล้ำ มีริ้วรอย ความหย่อนคล้อย หรือมีปัญหาแค่เพียงความหมองคล้ำที่เกิดจากการเผชิญมลภาวะต่าง ๆ เป็นระยะเวลา หรือจะมีปัญหาเกี่ยวเซลล์ลูไรท์ที่เกิดบริเวณหน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา เป็นต้น เทอเมจก็จะช่วยให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีได้ หลังจากเข้ารับบริการไม่ต้องใช้เวลาในการพักรักษาตัวเพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้เข้ารับบริการที่มีภาระงานเป็นจำนวนมาก อีกทั้งผลข้างเคียงมีไม่มากแค่เพียงเป็นรอยแดง หรือรอยนูนเท่านั้น การดูแลตนเองหลังการทำแค่เพียงต้องทาครีมกันแดด เพื่อป้องกันไม่ใช้แสงแดดเข้ามาทำลายชั้นผิวที่กำลังสร้างคอลลาเจนได้ จากเหตุผลที่กล่าวมาทำให้เทอเมจได้รับความนิยมเป็นอย่างมากสำหรับผู้หญิงที่เข้าสู่วัยทำงานแล้ว เพราะผู้เข้ารับบริการจะประสบกับปัญหาผิวหน้าไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง การทำเทอเมจไม่ได้ช่วยแค่เพียงเพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้เข้ารับบริการเท่านั้น ระยะเวลาที่ใช้ในการทำเทอเมจก็เป็นช่วงเวลาแห่งการผ่อนคลาย ลดความเครียดที่เกิดขึ้นจากการทำงาน จากการดูแลครอบครัว และควรจะเลือกสถาบันความงามที่มีมาตรฐานพร้อมทั้งทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญสามารถให้คำปรึกษาในการทำได้เป็นอย่างดี พร้อมการดูแลหลังการเข้ารับบริการ